ค่าเงินบาทวันนี้ 36.24 บาท ระวังผันผวนหลังเงินเฟ้อสหรัฐพุ่ง 9.1%
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 14 ก.ค.65 ที่ระดับ 36.24 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.28 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ วันที่ 12 กรกฎาคม) โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.15-36.35 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงของเฟดอีกครั้ง หลังอัตราเงินเฟ้อทั่วไป CPI ของสหรัฐ ในเดือนมิถุนายน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 9.1% สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งการเร่งขึ้นของเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐฯ นั้น ก็มาในวันเดียวกันกับที่ ธนาคารกลางแคนาดา (BOC) เร่งขึ้นดอกเบี้ย 1.00% สู่ระดับ 2.50% มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ผันผวนหนักในช่วงก่อนและหลังรับรู้เงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐ โดยเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 108.3 จุด โดยแรงกดดันเงินดอลลาร์ส่วนหนึ่งมาจากการขายทำกำไร เนื่องจากผู้เล่นบางส่วนมองว่า ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ย 1.00% ได้จริงก็อาจสะท้อนว่า เฟดคงไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงได้ไปมากกว่านี้แล้ว (Peak of Hawkishness)คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ยังคงได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย (safe haven) ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจถดถอย อนึ่ง แม้เงินดอลลาร์จะแกว่งตัว sideways หรือย่อลงเล็กน้อย พร้อมการบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐ ที่ย่อตัวลงบ้าง แต่แนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดก็เป็นปัจจัยที่กดดันให้ ราคาทองคำยังแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ มองว่า ตลาดการเงินอาจยังคงเผชิญความผันผวนสูงท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ เสี่ยงเข้าสู่สภาวะถดถอย หากเฟดเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงเพื่อคุมเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงาน เงินเฟ้อคาดการณ์ระยะกลางในวันศุกร์นี้ก่อน เพื่อให้มั่นใจว่า เฟดจะมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยได้ 1.00% ในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้ เนื่องจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็มาจากแนวโน้มการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะกลาง
ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มผันผวนและมีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าได้ ท่ามกลางปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ รวมถึงความกังวลแนวโน้มทางการจีนอาจใช้มาตรการ Lockdown ที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของ COVID-19 ซึ่งเราประเมินว่า แนวรับของเงินบาทในระยะสั้น ยังอยู่ในช่วง 35.90-36.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนแนวต้านสำคัญยังเป็นโซน 36.50 บาทต่อดอลลาร์ (มีโอกาสอ่อนค่าทดสอบแนวต้าน หากทางการจีนใช้มาตรการล็อกดาวน์จริง จนเกิดแรงเทขายสินทรัพย์ฝั่ง EM Asia) ซึ่งคงมุมมองเดิมว่า จุดกลับตัวของเงินดอลลาร์อาจเกิดขึ้นในช่วงการประชุมเฟดปลายเดือนนี้ หากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณพร้อมเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง (รอลุ้นเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะกลางในวันศุกร์นี้ ว่าจะทรงตัวหรือย่อตัวลงหรือไม่) ทำให้ยังมีโอกาสที่เงินบาทจะเริ่มกลับตัวมาแข็งค่าได้
“ความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงินเฟดได้กลับมากดดันตลาดการเงินอีกครั้ง ทำให้ตลาดมีแนวโน้มผันผวนสูงในระยะนี้ ซึ่งเราคงคำแนะนำเดิมว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลาย โดยเฉพาะกลยุทธ์ที่ใช้ Options ซึ่งสามารถเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพในช่วงตลาดผันผวนหนักได้”